Position:home  

ปกป้องผิวจากมะเร็งด้วยครีมกันแดดจากสมาคมมะเร็ง

มะเร็งผิวหนังภัยใกล้ตัวที่คุณอาจมองข้าม

มะเร็งผิวหนังเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดทั่วโลก จากข้อมูลของ สมาคมมะเร็งแห่งประเทศไทย ระบุว่าในประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังใหม่ประมาณ 8,000 รายต่อปี โดยมากกว่า 80% เกิดจากรังสียูวีในแสงแดด

บาดแผลจากแสงแดดส่งผลอย่างไร

รังสียูวีในแสงแดดส่งผลเสียต่อผิวหนังในหลายระดับ ได้แก่

  • ผิวหนังไหม้แดด
  • ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ
  • ริ้วรอยก่อนวัย
  • มะเร็งผิวหนัง

ครีมกันแดด: เกราะปกป้องผิวจากแสงแดด

ครีมกันแดดเป็นเกราะที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่เป็นอันตราย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่

  • รังสี UVA: เป็นรังสีที่มีคลื่นยาวกว่า แต่สามารถแทรกซึมลึกลงไปในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยและความเสียหายของผิวในระยะยาว
  • รังสี UVB: เป็นรังสีที่มีคลื่นสั้นกว่า แต่มีพลังงานสูงกว่า ทำให้เกิดผิวไหม้แดดและมะเร็งผิวหนัง

ปัจจัยในการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม

การเลือกครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  • ค่า SPF (Sun Protection Factor): บ่งบอกถึงระดับการปกป้องผิวจากรังสี UVB ควรเลือก SPF 30 ขึ้นไปเพื่อการปกป้องที่ดี
  • ค่า PA (Protection Grade of UVA): บ่งบอกถึงระดับการปกป้องผิวจากรังสี UVA ควรเลือก PA+++ ขึ้นไปเพื่อการปกป้องสูงสุด
  • เนื้อครีม: เลือกเนื้อครีมที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผิวมันควรเลือกเนื้อเจล ผิวแห้งควรเลือกเนื้อครีม
  • สูตรเนื้อครีม: ควรเลือกสูตรที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน

วิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง

เพื่อให้ครีมกันแดดมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้

  1. ทาครีมกันแดดทั่วผิวที่สัมผัสกับแสงแดด โดยทาในปริมาณที่เพียงพอ (เท่ากับช้อนชากับใบหน้าและคอ)
  2. ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที และควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
  3. ทาครีมกันแดดให้ทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณที่มักลืมทา เช่น ริมฝีปาก หู ลำคอ และหลังมือ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ครีมกันแดด

การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ได้รับประโยชน์มากมาย ได้แก่

  • ป้องกันผิวไหม้แดด
  • ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง
  • ลดริ้วรอยก่อนวัย
  • ป้องกันจุดด่างดำ ฝ้า กระ
  • รักษาผิวให้สุขภาพดีและเปล่งปลั่ง

ขั้นตอนที่ถูกต้องในการใช้ครีมกันแดด

  1. ทำความสะอาดผิว: ทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน แล้วซับผิวให้แห้ง
  2. ลงมอยส์เจอไรเซอร์: หากผิวแห้ง ควรทามอยส์เจอไรเซอร์ก่อนทาครีมกันแดด
  3. ทาครีมกันแดด: ทาครีมกันแดดให้ทั่วผิวที่สัมผัสกับแสงแดด โดยทาในปริมาณที่เพียงพอ
  4. ทาทับอีกครั้ง: ทาครีมกันแดดทับอีกครั้งทุก 2 ชั่วโมงหรือบ่อยกว่านั้นหากว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมาก

ตารางที่ 1: การแบ่งประเภทผลกระทบของรังสียูวี

ระดับรังสียูวี ผลกระทบ
ต่ำ ผิวไหม้แดดได้ยาก
ปานกลาง ผิวไหม้แดดได้ง่าย
สูง ไหม้แดดรุนแรง
รุนแรง ไหม้แดดรุนแรง หากไม่ป้องกันผิวอาจได้รับความเสียหายอย่างถาวร

ตารางที่ 2: ประเภทของครีมกันแดดตามเนื้อสัมผัส

ประเภทเนื้อสัมผัส ข้อดี ข้อเสีย
เนื้อครีม ให้ความชุ่มชื้นสูง เหมาะกับผิวแห้ง อาจเหนียวเหนอะหนะ
เนื้อโลชั่น เนื้อบางเบา ซึมซาบไว เหมาะกับทุกสภาพผิว อาจให้ความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ
เนื้อเจล เนื้อบางเบา ซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับผิวมัน อาจให้ความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ
เนื้อสเปรย์ ง่ายต่อการทา ใช้ซ้ำได้สะดวก ต้องเขย่าก่อนใช้ อาจกระจายไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ

ตารางที่ 3: เคล็ดลับในการเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย

ปัจจัยในการเลือก ข้อแนะนำ
ส่วนผสม: เลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม สี สารกันเสีย
การแพ้ที่อาจเกิดขึ้น: หากมีประวัติการแพ้ ให้ทาครีมกันแดดในปริมาณเล็กน้อยบริเวณท้องแขนและรอ 24 ชั่วโมงเพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่
ค่า SPF และ PA: เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และค่า PA+++ ขึ้นไปเพื่อการปกป้องที่เพียงพอ
Time:2024-09-09 11:57:33 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss