คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับการลงทุนในหุ้นของบมจ. ฟลุคเกริกพล (BHIP)

บทนำ

ในฐานะบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ชั้นนำของไทย บมจ. ฟลุคเกริกพล (BHIP) ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในฐานะหนึ่งในผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม บริษัทมีประวัติอันยาวนานในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าประทับใจสำหรับผู้ถือหุ้น

ภาพรวมบริษัท

BHIP ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 โดยเริ่มดำเนินธุรกิจจากการเป็นผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวและของหวานรายย่อย ปัจจุบันบริษัทได้ขยายธุรกิจไปอย่างมาก โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทครอบคลุมตั้งแต่ขนมขบเคี้ยว ของหวาน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไปจนถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม

บริษัทมีโรงงานผลิตหลายแห่งทั่วประเทศไทย และมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายและซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ

ผลการดำเนินงานทางการเงิน

BHIP ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในด้านผลการดำเนินงานทางการเงิน โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด

• ปี 2021: รายได้ 5,593 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% จากปีก่อน กำไรสุทธิ 518 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0%
• ปี 2022: (ไตรมาส 1-3) รายได้ 4,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5%

จุดแข็งของบริษัท

BHIP ได้สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งซึ่งช่วยให้บริษัทรักษาตำแหน่งที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม

• แบรนด์ที่แข็งแกร่ง: BHIP เป็นเจ้าของแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น "ปังเย็นไจแอนท์" "เจ้าสัว" และ "บิ๊กซอง" ซึ่งเป็นที่รู้จักและชื่นชอบของผู้บริโภค
• เครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง: บริษัทมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคได้จำนวนมาก
• การวิจัยและพัฒนา: BHIP ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค

โอกาสการเติบโต

BHIP มีโอกาสการเติบโตในอนาคตที่สำคัญหลายประการ

• การขยายตลาดต่างประเทศ: บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมโดยใช้กลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการและความร่วมมือทางธุรกิจ
• การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่: BHIP มีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อกระจายพอร์ตโฟลิโอและดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มใหม่
• การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ: BHIP กำลังลงทุนในช่องทางการจัดจำหน่ายอีคอมเมิร์ซ เพื่อรองรับการเติบโตของการซื้อของออนไลน์

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

จากมุมมองทางเทคนิค หุ้นของ BHIP ซื้อขายอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว โดยมีการทะลุแนวต้านที่สำคัญหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

กราฟราคาปัจจุบันแสดงรูปแบบสามเหลี่ยมธงที่เป็นขาขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่ามีการสะสมและใกล้ที่จะเกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญ

การประเมินมูลค่า

การประเมินมูลค่าของหุ้น BHIP โดยใช้ตัวคูณราคาต่อกำไร (P/E) และราคาต่อเครื่องหมายทางบัญชี (P/BV) นั้นสอดคล้องกับหุ้น FMCG อื่นๆ ในอุตสาหกรรม

• P/E: ณ วันที่ 31 มกราคม 2023 หุ้นของ BHIP มีการซื้อขายที่ P/E ประมาณ 20 เท่า
• P/BV: หุ้นของ BHIP มีการซื้อขายที่ P/BV ประมาณ 2.5 เท่า

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหุ้นของ BHIP มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตอันใกล้เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและโอกาสการเติบโตที่สำคัญ

คำแนะนำสำหรับนักลงทุน

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นของ BHIP ขอแนะนำดังต่อไปนี้:

• พิจารณาระยะยาว: BHIP เป็นการลงทุนระยะยาวที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการเติบโตในระยะยาว
• กระจายความเสี่ยง: หลีกเลี่ยงการทุ่มเงินทั้งหมดของคุณในหุ้น BHIP และกระจายการลงทุนของคุณไปยังหุ้นอื่นๆ
• ตรวจสอบผลประกอบการทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ: ติดตามผลการดำเนินงานทางการเงินของ BHIP เป็นประจำเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของบริษัทและแนวโน้มการเติบโต

ตารางสรุป

คำถามที่พบบ่อย

1. สัดส่วนการถือหุ้นของผู้บริหารเป็นอย่างไร?
ตอบ: ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นรวมกันประมาณ 52% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายทั้งหมด

2. BHIP มีแผนที่จะจ่ายเงินปันผลหรือไม่?
ตอบ: ใช่ BHIP จ่ายเงินปันผลเป็นประจำทุกปี อัตราการจ่ายเงินปันผลโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 40-50% ของกำไรสุทธิ

3. BHIP มีคู่แข่งรายใดบ้าง?
ตอบ: คู่แข่งหลักของ BHIP ได้แก่ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยูนิคอร์น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)

4. BHIP มีความเสี่ยงทางธุรกิจใดบ้าง?
ตอบ: ความเสี่ยงทางธุรกิจหลักของ BHIP ได้แก่ การแข่งขันที่รุนแรง ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค

บทสรุป

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้น FMCG ที่มีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งและโอกาสการเติบโตที่สำคัญ บมจ. ฟลุคเกริกพล (BHIP) เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังเป็นการลงทุนระยะยาวสำหรับผู้ที่มองหาการเติบโตที่มั่นคงในพอร์ตโฟลิโอการลงทุนของตน